ผู้ประกอบการ SME ที่มีทุนตั้งต้นไม่มากนัก เมื่อเวลาผ่านไปหากต้องการลงทุนเพิ่มเติม เรื่องของแหล่งเงินทุนอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในการทำธุรกิจ แต่ในปัจจุบันมีสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital Loan) ที่เหล่าผู้ประกอบการสามารถไปขอกู้เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในธุรกิจได้
ซึ่งโดยปกติแล้ว เหล่าสถาบันการเงินจะปล่อยสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ธุรกิจ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินงานประจำวัน เช่น การซื้อวัตถุดิบ ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าหรือบริการ โดยวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อให้ธุรกิจมีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอต่อการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
ทำไมสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนจึงมีความสำคัญต่อธุรกิจ SME?
สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SME) สินเชื่อประเภทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างคล่องตัว
รักษาสภาพคล่อง: ช่วยให้ธุรกิจมีเงินสดเพียงพอในการชำระหนี้ต่างๆ ได้ตรงเวลา ป้องกันปัญหาการขาดสภาพคล่องที่อาจนำไปสู่การปิดกิจการ
เพิ่มขีดความสามารถในการผลิต: เมื่อมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ ธุรกิจสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตสินค้าหรือบริการได้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
ขยายธุรกิจ: สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนสามารถนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ เช่น เปิดสาขาใหม่ พัฒนาสินค้าใหม่ หรือทำการตลาด
บริหารจัดการสต็อกสินค้า: ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการสต็อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากการขาดสต็อกหรือสต็อกล้น
ปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาด: ในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดได้อย่างรวดเร็ว
ประเภทของสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนมีแบบไหนบ้าง?
สินเชื่อประเภทนี้มีอยู่หลากหลายประเภทให้ผู้ประกอบการเลือกขอกู้ ซึ่งในแต่ละประเภทจะมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่แตกต่างกันไป เช่น
สินเชื่อระยะสั้น: มีระยะเวลาชำระคืนสั้น เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินงานประจำวัน
สินเชื่อหมุนเวียน: เป็นสินเชื่อที่สามารถเบิกถอนและชำระคืนได้หลายครั้งตลอดระยะเวลาของสัญญา
สินเชื่อโอเวอร์ดราฟต์: เป็นการอนุมัติวงเงินกู้เกินจากยอดเงินคงเหลือในบัญชี
ขั้นตอนการขอสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน
เตรียมเอกสาร: เตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น ทะเบียนพาณิชย์ บัญชีรายรับ-รายจ่าย ภาษี และหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของธุรกิจ
เลือกสถาบันการเงิน: เลือกสถาบันการเงินที่ให้บริการสินเชื่อที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจ
ยื่นขอสินเชื่อ: ยื่นเอกสารขอสินเชื่อ พร้อมทั้งระบุวงเงินที่ต้องการและวัตถุประสงค์ในการใช้เงิน
รอการพิจารณา: สถาบันการเงินจะพิจารณาเอกสารและประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจ
ทำสัญญา: หากได้รับอนุมัติ ให้ทำสัญญาเงินกู้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน
เคล็ดลับในการขอสินเชื่อเพื่อให้ได้รับการอนุมัติ
เตรียมแผนธุรกิจ: แผนธุรกิจที่ดีจะช่วยให้สถาบันการเงินเห็นศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ
รักษาประวัติทางการเงินที่ดี: การมีประวัติทางการเงินที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ
เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไข: เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน เพื่อเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมที่สุด
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน
ข้อควรระวังในการขอสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน
อ่านสัญญาให้ละเอียด: ก่อนลงนามสัญญา ควรอ่านสัญญาให้ละเอียด เพื่อทำความเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ อย่างชัดเจน
วางแผนการชำระหนี้: วางแผนการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดของธุรกิจ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสีย
ใช้เงินอย่างคุ้มค่า: นำเงินที่ได้รับจากสินเชื่อไปใช้เพื่อการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนให้กับธุรกิจได้เติบโต
ได้รู้กันไปแล้วว่าสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนมีความสำคัญอย่างไรกับธุรกิจขนาดเล็กและแบบ SME ทั้งนี้อย่าลืมว่า หากได้รับการอนุมัติสินเชื่อมาแล้ว ผู้ประกอบการจะต้องวางแผนบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจต่อไปในระยะยาว
Comments